บริษัทที่ได้ทำการประเมิน competency ของพนักงานทั้งองค์กร เพื่อมาดำเนินการจัดทำ แผนฝึกอบรมประจำปี โดยนำ competency gap มาเป็นข้อมูลในการออกแบบหลักสูตรในการฝึกอบรมประจำปี ซึ่งเป็นที่มาของหลักสูตร ที่พนักงานของแต่ละคนที่ได้รับผลการประเมินต่ำกว่ามาตรฐาน ที่องค์กรคาดหวัง จะต้องมาเข้าสัมมนาของแต่ละหลักสูตรที่บริษัทได้จัดให้ของแต่ละปี นั่นคือ ความเป็นที่มาของการจัดทำหลักสูตร หรือที่หน่วยงาน HR เรียกว่า การหาความต้องการในการฝึกอบรม สิ่งที่อยากจะบอกกับผู้บริหารองค์กรและหน่วยงาน HR ที่จะต้องทำความเข้าใจ และมีความเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ ที่จะต้องมาเข้ารับการสัมมนา ในหลักสูตรที่บริษัทได้จัดไว้ให้
โดยทั่วไป ถ้ามีการจัดหลักสูตรการฝึกอบรม และมีการแจ้งพนักงานให้เข้ารับการอบรมของแต่ละปี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในสิ่งที่พนักงานยังขาด ความรู้ และทักษะ อยู่ ถ้าผ่านการอบรมในหลักสูตรนี้ พนักงานจะได้รับการพิจารณา การปรับระดับของพนักงานในตำแหน่งที่สูงขึ้นไป ก็จะทำให้ความรู้สึกของพนักงานที่ได้เข้ารับการฝึกอบรม จะมีแรงจูงใจในการไขว่คว้าหาความรู้ ในหลักสูตรนั้นๆ และจะมองการจัดการฝึกอบรมในหลักสูตรดังกล่าว ว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่ผู้บริหารองค์กรได้จัดให้กับตัวเขาเอง ซึ่งจะเป็นภาพมุมมองของพนักงานที่คิดในเชิงบวกกับบริษัท
ในบางบริษัทที่มีการจัดการฝึกอบรมให้กับพนักงาน ในแต่ละปี ซึ่งข้อมูลและที่มาคล้ายคลึงกันเลย แต่ได้ระบุที่มาของหลักสูตร ให้พนักงานที่ได้เข้ารับการฝึกอบรมได้รับทราบถึงที่มาของหลักสูตรว่า กระบวนการที่มาของหลักสูตรอย่างไรบ้าง และระบุชื่อหลักสูตรของการฝึกอบรมนั้นๆ ว่า เป็นการปิด gap อีกด้วย พนักงานที่ได้รับการคัดเลือก ให้เข้ามารับการฝึกอบรมในหลักสูตรดังกล่าว เกิดความรู้สึกว่า บริษัทประเมินตัวเขาเองว่า เป็นคนทำงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน หรือสิ่งที่คาดหวังขององค์กร จึงทำให้พนักงานเกิดความรู้สึกน้อยใจ ที่หัวหน้าและบริษัทได้มองภาพตัวของเขาว่าเป็นคนที่ทำงานต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งทำให้พนักงานที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการฝึกอบรม เกิดความรู้สึกต่อต้าน ไม่ได้สร้างแรงจูงใจ ที่จะเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรที่บริษัทได้จัดให้เลย ทำให้เสียค่าใช้จ่าย งบประมาณ การฝึกอบรมโดยใช่เหตุ หลักสูตรการฝึกอบรมแทนที่จะเป็นตัวสร้างให้พนักงานเกิดขวัญกำลังใจที่ดี รักองค์กร สร้างมูลค่าเพิ่ม แต่ทำให้พนักงานมองภาพของบริษัท และผู้บริหารในทางที่ลบ ยิ่งเกิดความเสียหายต่อองค์กรอย่างมากมายเลยทีเดียว
จากประสบการณ์ของผู้เขียนได้ถูกเชิญให้เป็นวิทยากร ในการบรรยายในหลักสูตรของการปิด competency gap ขององค์กรแห่งหนึ่ง บรรยากาศของห้องเรียนในวันดังกล่าว จะพบสภาพของผู้เข้าสัมมนา ที่เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อหัวหน้า และบริษัท ว่าได้จัดให้เขามาเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองได้มีความตั้งใจ ในการปฏิบัติงานเป็นอย่างดี ไม่ควรจะได้รับผลการประเมินจากหัวหน้าในลักษณะเช่นนี้ และไม่มีการชี้แจงจากหัวหน้าและผู้บริหารเลย ทำให้บรรยากาศในการฝึกอบรมในวันนั้น เป็นการระบายความในใจเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของพนักงาน เกิดความอยากรู้ และการพัฒนาตัวเอง ในสิ่งบริษัทได้ ออกแบบหลักสูตรที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ สิ่งนี้ที่ผู้เขียนอยากจะมาบอกต่อไปยังผู้บริหารองค์กร โดยเฉพาะหน่วยงาน HR ที่เป็นผู้รับผิดชอบหลักสูตร ที่ได้จัดการฝึกอบรมให้เป็นไปตาม ความต้องการในการฝึกอบรมของแต่ละปี
แนวทางในการแก้ไขปรับปรุง เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกของพนักงานดังกล่าว ในทัศนะของผู้เขียน มองว่า การออกแบบหลักสูตรที่ได้มานั้น สิ่งที่เป็นเบื้องลึกของการได้มาของข้อมูลบางอย่างก็ไม่จำเป็น ต้องบอกพนักงานทุกเรื่องก็ได้ ปล่อยให้เป็นความลับของสุสานบ้าง เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีของพนักงานตามที่เล่ามาข้างต้นได้ การใช้ชื่อหลักสูตรไม่ควรใช้คำพูดในเชิงลบ เช่น หลักสูตรการปิด gap ของพนักงาน หลักสูตรการจัดการพนักงานที่มีผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน เป็นต้น คำต่างๆ เหล่านี้ ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อพนักงาน ถ้าในทางตรงกันข้าม เราชี้แจงพนักงานว่า หลักสูตรนี้ เป็นหลักสูตรที่สำคัญ พนักงานที่ได้เข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้ จะเป็นพนักงาน ที่ได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงานทั้งบริษัท ซึ่งมีจำนวนจำกัดในแต่ละปีเท่านั้น พนักงานที่ได้รับการพิจารณาเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้ จะได้รับการพิจารณาเสนอชื่อเป็น หัวหน้า/ผู้จัดการต่อไป ก็จะยิ่งทำให้หลักสูตรนี้มีความสำคัญ ในสายตาของพนักงานมากกว่า ที่บริษัทได้ดำเนินการตามหลักวิชาการจนเกินไป