นักบริหารงานบุคคลโดยส่วนใหญ่ ต้องยอมรับว่า ไม่ได้นำเรื่องนี้มาพิจารณาถึงความจำเป็นต่อบริษัทในอนาคตอย่างไร เพราะว่าสภาวะปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า การขาดแคลนแรงงานที่ต้องมาเสริมทีมงานในระดับ แรงงาน ค่อนข้างหายาก และขาดแคลนเป็นอย่างมาก การสรรหาและคัดเลือก คนเข้าสู่องค์กรจึงเป็นวิถีทางที่ เจ้าหน้าที่สรรหาต้องดิ้นรน เพื่อที่จะให้ได้พนักงานเข้ามาทำงานให้ทันต่อความต้องการของบริษัท นอกจากเป็นความจำเป็นเร่งด่วนแล้ว ก็ต้องได้คนที่มี ความรู้ ความสามารถ มีความพร้อมที่จะปฏิบัติงานในบริษัทอีกด้วย
การที่ทุกบริษัท เกิดปัญหาคล้ายๆกันในลักษณะนี้ จึงทำให้เกิดการละเลย เรื่อง ของที่อยู่ของพนักงานที่จะต้องมาปฏิบัติงานในบริษัท ผู้เขียนขอยกตัวอย่าง เมื่อสมัยก่อนการมาสมัครงานของพนักงานใหม่ สิ่งที่ฝ่ายบุคคล จะต้องถามเป็นอันดับแรก ก็คือ ที่อยู่ของพนักงานที่จะต้องเดินทางมาปฏิบัติงาน เพราะว่า ถ้าบริษัทไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ จะทำให้เกิดปัญหาในภายหลัง กล่าวคือ พนักงานที่ได้เข้ามาเป็นพนักงานแล้ว จะเริ่มมีข้อเรียกร้อง กรณีที่สถานที่ทำงานอยู่ไกลจากบ้านที่พักอยู่ ก็เรียกร้องจะให้บริษัทมีรถรับส่งพนักงานส่งให้ถึงที่พักอาศัยของพนักงาน ในช่วงแรกยังไม่มีจำนวนมาก ยังไม่มีพลังในการเรียกร้อง แต่พอมาสักระยะหนึ่งพนักงานมีบ้านพักอาศัย ใกล้ๆ กันมากขึ้น เริ่มมีข้อต่อรองจากบริษัทมากขึ้น เพราะว่า ฝ่ายบุคคลมีการสำรวจ ความพึงพอใจของพนักงานทุกปี ก็จะมีประเด็นเรื่อง บริษัทจัดรถรับส่งพนักงานไม่ทั่วถึง เลยทำให้ผู้บริหารต้องนำเรื่องนี้มาพิจารณา ว่าข้อเท็จจริงคืออะไรกันแน่ พอตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก ก็มักจะปรากฏว่าพนักงานที่ก่อนจะเข้ามาปฏิบัติงาน อยากได้งาน ก็มักจะเขียนเหตุผลที่น่ารับฟังได้ว่า ถึงบ้านไกลจากบริษัทก็ไม่เป็นไร จะมาเช่าอาศัยที่พักใกล้ๆ บริเวณบริษัท เพื่อที่จะทำงานให้ได้ แต่พอปฏิบัติไปสักระยะหนึ่ง ก็เริ่มคิดได้ว่า บ้านเช่า/ห้องเช่าเป็นค่าใช้จ่ายที่เสียไปทุกเดือน ทำไมจึงไม่กลับไปนอนบ้านของตนเอง เลยทำให้พนักงานที่เคยสัญญากับบริษัทไว้ตั้งแต่เริ่มแรก เริ่มมีแนวคิดที่เปลี่ยนไป ว่าจะต้องขอเรียกร้องเรื่องเหล่านี้จากผู้บริหารของบริษัท เพื่อจะได้ให้บริษัทได้จัดรถรับส่งพนักงาน ไปถึงบ้านที่อาศัยอยู่ จึงทำให้บริษัทที่เคยจัดรถรับส่งพนักงานที่ห่างจากตัวบริษัทไม่เกิน 10 กม. จำเป็นต้องเพิ่มระยะทางให้ทั่วถึงบ้านของพนักงานที่อยู่ห่างออกไปอีก เป็น 20-30 กม. บางครั้ง อาจจะต้องข้ามตัวจังหวัดไปอีกสองจังหวัดก็มี เรื่องนี้จึงอยากจะยกเป็นกรณีศึกษาให้กับหน่วยงาน HR ที่ต้องพิจารณาถึงเรื่อง ที่อยู่ของพนักงาน ที่จะต้องเดินทางมาปฏิบัติงานควบคู่ไปด้วย เพราะว่าการที่แก้ปัญหาในปัจจุบันได้ โดยการรับพนักงานมาทันความต้องการของบริษัท แต่สุดท้ายก็จะต้องไปเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเพิ่มระยะทาง ในการจัดรถรับส่งขึ้นอีก ยิ่งเป็นกรณีที่พนักงานได้ปฏิบัติงานในบริษัทเป็นระยะเวลาเกิน 6 เดือนไปแล้ว ยิ่งทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนทักษะแรงงาน ที่เป็นอัตรากำลังหลักของบริษัทอีกด้วย ยิ่งเป็นพนักงานที่รับมาจากกลุ่มหมู่บ้านเดียวกัน จะทำให้มีพลังในการต่อรอง เพื่อให้ผู้ริหารได้จัดสวัสดิการรถรับส่ง ให้ตามที่เขาต้องการ ถ้าบริษัทไม่จัดตามที่เรียกร้อง ก็จะลาออกไปอยู่ที่บริษัทอื่น ที่เป็นคู่แข่งขัน ก็จะทำให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจในภาพรวมอีกด้วย
ฝ่าย HR จึงต้องทำความเข้าใจ ถึงเรื่องที่อยู่ของพนักงาน ในช่วงแรกเริ่ม เพื่อที่จะไห้ไม่เกิดปัญหาเรื่องข้อเรียกร้อง ด้านสวัสดิการดังกล่าวตามมา อาจจะต้องมีมาตรการ ให้มีข้อตกลงกันเอาไว้ก่อนที่จะเข้ามาปฏิบัติงาน ว่าบริษัทจะไม่มีสวัสดิการเรื่องรถรับส่งให้ ซึ่งพนักงานจะต้องมีการเซ็นข้อตกลงกับบริษัทเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน เก็บในแฟ้มประวัติของพนักงาน จะได้ไม่เกิดกรณีดังกล่าวได้