HR กับการเปลี่ยนแปลงเชิงแนวความคิดของพนักงานแต่ละ Gen
การบริหารคนที่เปลี่ยนแปลงไป ตามยุคสมัย ซึ่งหน่วยงาน HR จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารคน เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน และเป็นการบริการพนักงานที่อยู่ภายในองค์กร ให้เกิดความประทับใจ อยากเข้ามาร่วมงานภายในองค์กรมากขึ้น
การสำรวจพนักงานภายในองค์กรว่ามีพนักงานอยู่ในกลุ่มใดบ้าง และมีจำนวนเท่าใด เพื่อเป็นการสำรวจความต้องการของพนักงานในแต่ละกลุ่มไปด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการบริหารพนักงานภายในองค์กร
สำหรับองค์กรโดยทั่วไป จะมีพนักงานที่ร่วมงานภายในองค์กรอยู่ 3 กลุ่มด้วยกัน คือ Gen B Gen X และ Gen Y พนักงานทั้ง 3 กลุ่มจะมีความต้องการที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าหน่วยงาน HR เข้าถึงในจุดนี้ได้ ก็จะยิ่งทำให้วางแผนงานการบริหารสวัสดิการ การบริหารผลตอบแทน และการเจริญเติบโต ภายในองค์กร ได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น ถามว่าจะบริหารเหมือนเมื่อก่อนได้ไหม ก็ได้เช่นกัน แต่องค์กรก็ต้องยอมสูญเสียพนักงานบางกลุ่มไป สิ่งที่หน่วยงาน HR ยุคใหม่ต้องมีความพร้อม และเข้าถึงพนักงานแต่ละกลุ่มได้มากขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังต้องมีความเข้าใจ ความต้องการของพนักงานแต่ละกลุ่ม ให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
จากสัดส่วนประชากรของประเทศไทยประมาณ 65 ล้านคน จะมีจำนวน Gen B 18 % Gen X 27 % และ Gen Y 28 % ซึ่งทาง 3 กลุ่มจะอยู่ในกลุ่มของวัยทำงาน ส่วน Gen Z ยังไม่ได้เข้าสู่องค์กร ยังอยู่ในมหาวิทยาลัย และอีกในไม่ช้ากลุ่มนี้ก็จะจบและได้มาเข้าร่วมงานกับองค์กรในอนาคต ในมุมมองขององค์กรก็เช่นกัน สัดส่วนพนักงานภายในองค์กรก็น่าจะเป็นไปตามสัดส่วนของประชากรในประเทศ การบริหารองค์กร เริ่มมีความลำบากมากยิ่งขึ้น เพราะความต้องการของพนักงาน มีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน มีเอกลักษณ์ประจำตัว วิธีการทำงานที่ไม่เหมือนเมื่อก่อน ประกอบกับโลกปัจจุบันมีข้อมูลให้พนักงานได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอดเวลา จึงทำให้พนักงานบางกลุ่มที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีทางเลือกในการร่วมงานกับองค์กรต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งในแต่ละองค์กรจึงหันมาให้ความสนใจ ในการบริหารคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาร่วมงานกับองค์กร โดยการสร้างสิ่งที่เป็นแรงดึงดูดใจพนักงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ เพื่อให้มีทางเลือก และอยากเข้ามาร่วมงานกับองค์กร เช่น การให้มีอินเตอร์เนทตลอด 24 ชั่วโมง การยืดหยุ่นเวลาในการปฏิบัติงาน และ การสร้างทางเลือกในการใช้สวัสดิการได้ เป็นต้น
การบริหารคน ผู้บริหารก็ต้องตระหนักอีกว่า พนักงานภายในองค์กร ไม่ใช่มีกลุ่ม Gen Y อย่างเดียว ยังมีอีก 2 กลุ่มที่ทำงานกับองค์กรมาตั้งแต่องค์กรเปิดและเริ่มกิจการ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen B ได้ร่วมต่อสู้ในการทำงาน อยู่ร่วมกับองค์กรมาตั้งแต่แรก องค์กรได้มีการเจริญเติบโต มีกำไร ขยายสาขา เพราะพนักงานกลุ่มนี้ ช่วยเป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้กิจการของบริษัทได้มีการพัฒนา เพราะเกิดจากการทุ่มเท ความมุมานะในการทำงานของพนักงานกลุ่มนี้ ผู้บริหารจะไปเอาใจแต่พนักงานในกลุ่มของคนรุ่นใหม่อย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะจะไปกระทบกระเทือนจิตใจ ของพนักงานกลุ่มที่อยู่กับองค์กรมานาน เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อองค์กร ฉะนั้น หน่วยงาน HR จะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารคนทั้ง 3 กลุ่ม ให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยเพิ่มช่องทางในการบริหารสวัสดิการให้เหมาะสมของแต่ละกลุ่ม เพื่อสร้างแรงดึงดูดพนักงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับองค์กร และยังไม่ไปยุบหรือยกเลิกการบริหารสวัสดิการแบบเดิมๆ ที่เหมาะสมกับคนรุ่นเก่าไปเสียทั้งหมด นอกจากนั้น ยังต้องมีการวางแผน ในการสื่อสารให้พนักงานได้ทราบ ถึงความคืบหน้าในการบริหารสวัสดิการขององค์กรของพนักงานแต่ละกลุ่ม ให้พนักงานได้ทราบอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันพนักงานเกิดความสับสน และไม่เข้าใจ เกิดความสับสนในบางส่วนที่บริษัทได้ประกาศออกไป
การบริหารคนภายในองค์กร ที่มีความต้องการที่หลากหลายของพนักงาน ย่อมเกิดความลำบากมากยิ่งขึ้น ในการบริหารสวัสดิการ การบริหารผลตอบแทนของพนักงาน หน่วยงาน HR จะต้องมีความรอบรู้ในความต้องการของพนักงานแต่ละกลุ่มแล้ว ยังต้องมีการสำรวจสวัสดิการของบริษัทต่างๆ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับบริษัท เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา การโยกย้ายปรับเปลี่ยนงานของพนักงาน ไปอยู่องค์กรอื่น ภาระงานของ HR จะต้องเพิ่มขึ้น รับเรื่องร้องเรียนพนักงานในทุกกลุ่ม ยอมรับฟังพนักงานได้ ซึ่งมาถึงจุดนี้ ผู้บริหารองค์กร ต้องมีความเข้าใจถึงความต้องการพนักงาน ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย ถึงจะตอบโจทย์พนักงานได้ถูกต้อง และมีทิศทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ดร.กฤติน กุลเพ็ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอโอดีคอนเซาท์ติ้ง แอนด์เทรนนิ่ง จำกัด
วิทยากรและที่ปรึกษา ให้กับภาครัฐและภาคเอกชน