จากสภาพแวดล้อมขององค์กรและพฤติกรรมของผู้สมัครที่เปลี่ยนแปลงไป การปรับเปลี่ยนระบบงานภายในองค์กร ก็ต้องถึงว่าที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ทันสมัย ต่อผู้สมัครที่กำลังจะเข้ามาสู่องค์กร โดยเฉพาะกระบวนการดึงดูดตั้งแต่เริ่มแรกจะดลใจคนรุ่นใหม่อย่างไร และต้องศึกษาพฤติกรรมข้อมูลผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย จากข้อมูลอ้างถึงบทที่ผ่านมาที่ได้อ้างถึงพฤติกรรมของคน Generation ME ที่มีบุคคลิกภาพที่หลงตัวเองด้วยแล้ว จำเป็นต้องสร้างสิ่งที่เป็นที่ชื่นชอบของคนกลุ่มนี้
- เน้นแพคเกจ ค่าจ้างและสวัสดิการให้จูงใจ โดยเฉพาะผู้สมัครกลุ่มนี้ต้องการความสำเร็จเร็ว เมื่อเปรียบเทียบค่าจ้างและงานที่เขาต้องทำแล้ว สามารถเป็นที่ยอมรับในสากลทั่วไป ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ฉะนั้นแพคเกจค่าจ้าง นายจ้างจะออกแบบให้มีอัตราค่าจ้างที่สูงกว่ามาตรฐานโดยทั่วไป แต่สวัสดิการชนิดอื่นให้น้อยลง เพราะว่าผู้สมัครกลุ่มนี้ มองถึงตัวรายได้มากกว่าสวัสดิการที่เขาได้รับ
- การออกแคมเปญสรรหา มุ่งเน้นการทำศัยกรรมสำหรับคุนรุ่นใหม่ โดยมีสโลแกนที่ว่า ทำบุญได้ชาติหน้า แต่ทำหน้าได้ชาตินี้ บางองค์กรประกาศให้ผู้สมัครได้รับทราบข้อมูลอย่างเปิดเผย เพื่อเป็นการการันตีว่า ถ้าผู้สมัครกลุ่มนี้มาร่วมงาน ถ้าผ่านทดลองงานแล้ว สามารถใช้สิทธิสวัสดิการของพนักงานได้อยู่ในงบประมาณค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลจำนวน 20000 บาท/ปี จากที่มีองค์กรได้ออกแคมเปญลักษณะนี้ออกไป ปรากฎว่ามีเสียงตอบรับจากผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก เพราะว่าจากการสำรวจพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้แล้ว มักจะรักสวยรักงาม อยากให้ตัวเองเด่นกว่าคนอื่น การลงทุนในส่วนนี้สามารถทุ่มได้เสมอ ถ้ามีองค์กรใดที่เข้าใจในส่วนนี้ ก็สามารถที่จะสร้างความประทับใจให้ผู้สมัครกลุ่มนี้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ก็จะเป็นแคมเปญจุดหนึ่งที่สามารถสร้างแรงดึงดูดให้ผู้สมัครได้รู้จักองค์กรและอยากร่วมงานด้วย ซึ่งในช่วงแรกผู้สมัครอยากเข้ามาร่วมงานในช่วงแรก เพราะอยากได้สิ่งที่เขาต้องการ แต่เมื่อผู้สมัครเข้าร่วมงานภายในองค์กรแล้ว สิ่งที่องค์กรต้องดำเนินการต่อไปจากนี้ คือจะทำอย่างไรให้เขาอยากร่วมงานต่อไปกับองค์กร
- การจัดกิจกรรม outing ให้แมทกับคุนรุ่นใหม่ สำหรับกิจกรรมที่ผู้บริหารองค์กร ต้องทำความเข้าใจกับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่อาจจะไม่เหมือนคนรุ่นเก่าๆ เช่นการจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง หน่วยงาน HR ต้องมีการทำการบ้านเพิ่มเติม ขึ้นอีกหน่อย โดยการออกแบบสอบถามไปยังพนักงานแต่ละกลุ่มงาน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงของพนักงาน ว่าแต่ละกลุ่มอยากให้องค์กรไปจัดกิจกรรมแบบใด ลักษณะใด แล้วค่อยมาสรุปข้อมูลการออกไปทำกิจกรรมเพื่อที่จะได้แมทกับคนรุ่นใหม่ จากข้อมูลที่บางองค์กรได้เคยสอบถามภายในองค์กรแล้ว สิ่งที่คนรุ่นใหม่อยากให้ทำกิจกรรมก็คือ การออกไปทำกิจกรรมช่วยเหลือโรงเรียนที่อยู่ในแหล่งห่างไกลชุมชน การช่วยเหลือผู้ด้วยโอกาส/การช่วยเหลือสัตว์ เช่นกิจกรรมการปลูกป่า การอนุรักษ์เต่า เป็นต้น
- การปรับปรุงองค์กรมาใช้เทคโนโลยีด้าน IT ให้มากขึ้น จากการปรับเปลี่ยนผ่านมาแต่ละยุคสมัย สิ่งที่คนรุ่นใหม่ชอบและขาดเสียไม่ได้คือ wifi ยิ่งองค์กรใดที่สนับสนุนให้มีการการใช้งานผ่านทางอินเตอร์เนท ก็จะยิ่งทำให้ถูกใจกับบุคคลากรกลุ่มนี้ เป็นอย่างมาก ถ้าองค์กรใดห้ามพนักงานเล่นมือถือในขณะปฏิบัติหน้าที่ ก็จะเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับบุคคลากรกลุ่มนี้ และจะส่งผลให้การเข้ามาร่วมงานของผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่เริ่มมีอัตราที่น้อยลง
- การปรับเพิ่มวันหยุดให้มากขึ้น จากข้อมูลที่ได้รับจากผู้สมัคร ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่อยากร่วมงานกับองค์กรที่มีวันหยุดมากๆ เพื่อจะได้มีเวลาได้ไปทำงานอย่างอื่นเพิ่มเติมขึ้น เพราะพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ มักจะทำงานได้หลาย ๆอย่างในช่วงเวลาเดียวกัน จึงเป็นที่มาของบางองค์กร ออกแบบวันหยุดประจำสัปดาห์ให้มีจำนวนวันเพิ่มมากขึ้น ทำงานอาทิตย์ละ 3-4 วัน จำนวนค่าจ้างก็ลดไปตามสัดส่วน เมื่อองค์กรมีการปรับยืดหยุ่นให้ลักษณะเช่นนี้ ก็ถือว่าเป็นการ win-win ทั้งคู่ เพราะพนักงานรุ่นใหม่ ก็ไม่อยากปฏิบัติงานอะไรที่จำเจ ตลอดเวลา ในวันหยุดพนักงานสามารถไปรับงานอื่นที่ไม่ขัดต่อองค์กร ที่ปฏิบัติงานอยู่ ก็ถือว่าพนักงานสามารถยอมรับได้
- การปรับปรุงระบบการจ้างงานแบบหลากหลาย สืบเนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนเงื่อนไข ขององค์กร หน่วยงาน HR ควรจะต้องศึกษาข้อมูลกระบวนการ การจัดทำสัญญาจ้างงานให้เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัท โดยเปิดกว้างช่องทางการจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้น เช่น การจ้างงานแบบเป็นที่ปรึกษาหรือฟรีแลนซ์ การจ้างแบบชั่วคราว เป็นต้น โดยเน้นการปฏิบัติงานที่บ้าน ไม่กำหนดวันเวลาปฏิบัติงาน แต่กำหนดความชัดเจนการส่งมอบงานทุกวัน เวลา ตามที่ได้ตกลงกันไว้ ตามสัญญา
- การปรับระบบการสัมภาษณ์ให้เน้นการแสดงออกของผู้สมัครมากขึ้น จากการที่ผู้สมัครอยากแสดงออกทางความคิดมากขึ้น ผู้บริหารองค์กร อาจจะใช้สิ่งเหล่านี้ โดยการสร้างข้อมูลที่องค์กรอยากได้ ให้ผู้สมัครได้ดำเนินการนำเสนอในสิ่งที่องค์กรต้องการแทนการสัมภาษณ์แบบเดิม ที่คณะกรรมสัมภาษณ์ ต้องมานั่งสัมภาษณ์เป็นรายคน โดยการซักถามคำถามและให้ผู้สมัครตอบตามสคริปที่เตรียมไว้ ก็จะทำให้ดูเหมือนถูกบังคับ ไม่สามารถแสดงออกในส่วนที่ผู้สมัครมีความสามารถออกมาได้ทั้งหมด ซึ่งทั้งนี้ผู้บริหารองค์กรต้องสร้างเครื่องมือกรอบแนวคิด วัตถุประสงค์ในสิ่งที่องค์กรต้องการให้ครบทุกหัวข้อเสียก่อน แล้วส่งให้ผู้สมัครได้ทำความเข้าใจ เพื่อเตรียมพร้อมในการนำเสนอ แทนการสัมภาษณ์งานแบบเดิม
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นแนวทางการสรรหาคัดเลือก สำหรับคนรุ่นใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมองค์กรให้มีการปรับเปลี่ยนจากการปฏิบัติงานแบบเดิมๆ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสรรหาเชิงรุก ทำให้ได้ผู้สมัครมาร่วมงานกับองค์กรได้มากขึ้น มีตัวเลือกเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นไปด้วยนั่นเอง
ที่มาข้อมูล : ดร.กฤติน กุลเพ็ง การสรรหาและคัดเลือกพนักงานเข้าสู่องค์กร 2564