จากที่แรงงานในประเทศของเราขาดแคลน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ต้องแรงงานแทนเครื่องจักร เพราะต้องอาศัยความละเอียด รอบคอบ และความชำนาญพิเศษ ที่เครื่องจักรไม่สามารถทำได้ จำเป็นต้องอาศัยแรงงานคนเข้ามามีบทบาทมากสำหรับธุรกิจ เช่น ธุรกิจด้านการบริการลูกค้า ธุรกิจด้านอาหาร ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการ ธุรกิจด้านสุขภาพ ธุรกิจการคัดเลือกสินค้าที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ เช่น การเพนท์สีกระเบื้องปูพื้น กระเบื้องบุผนัง ออกมาเป็นรูปลวดลายต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เป็นการบอกในเบื้องต้นว่างานบางอย่าง เทคโนโลยีไม่สามารถเข้ามาทดแทนแรงงานคนได้ จึงมีความจำเป็นที่ต้องอาศัยแรงงานคนอยู่ดี กระบวนการสรรหาคนเข้าสู่องค์กรในยุคปัจจุบัน จึงเป็นปัญหาหลักและเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับผู้บริหารองค์กร เพราะว่าผู้เขียนได้มีโอกาสได้เข้าไปบรรยายในบริษัทที่เป็นธุรกิจ ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ มักจะพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า หาคนมาสมัครงานก็ยาก มาทำงานแล้วก็ทำงานไม่ค่อนทน และเมื่อเข้ามาทำงานแล้วก็ไม่ค่อยเต็มที่ให้กับองค์กร ถึงเวลาแล้วที่นักบริหารงานบุคคลควรจะมีการทบทวนระบบการสรรหาเสียใหม่ โดยเริ่มจาก
การวิเคราะห์ดูว่าตำแหน่งงานไหนบ้างที่ต้องใช้ระยะเวลานานหรือหายากในตลาดแรงงาน ในการสรรหา ตำแหน่งไหนบ้างที่หายาก ควรจะนำมาจัดทำแผนการสรรหาเชิงรุก เช่น การลดเวลาในการสรรหาโดยการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรไว้ล่วงหน้า บางครั้งอาจจะเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้สมัครที่ค่อนข้างหายากให้มากขึ้น เช่น จัดรถรับส่งไปยังที่มหาวิทยาลัย หรือเก็บรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะเก็บไว้ในบัญชีของผู้สมัคร ที่พร้อมจะเรียกทำงาน โดยมีการติดต่อจากบริษัทอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้สมัครเกิดความมั่นใจว่า ยังมีบริษัทที่มีความต้องการตัวเข้าอยู่
องค์กรจัดตั้งโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเป็นของตัวเองเพื่อผลิตคนที่มีความรู้และทักษะเฉพาะ บางองค์กร เพื่อไม่ให้เกิดการขาดแคลนแรงงานที่มีผลกระทบต่อบริษัทและกระบวนการผลิต ดังตัวอย่างเช่น บริษัทใหญ่ๆได้ทำกัน เช่น บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ ที่รับมาเป็น นักศึกษา และทำงานในองค์กรไปด้วย
การให้ทุนนักเรียนนักศึกษาและให้ทำงานพร้อม ๆ ไปกับการเรียน บางองค์กรก็สรรหาคนทดแทนจากบุคลากรภายใน การสร้างระบบในลักษณะนี้ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แก้ไขปัญหา การขาดแคลนแรงงานในระดับหนึ่งได้ และสิ่งที่ได้ใจจากพนักงานที่ทำงานอยู่กับองค์กรนานๆ ก็จะเกิดแรงจูงใจในการทำงานให้กับองค์กร เกิดความทุ่มเท คอยเป็นผู้รักษา พิทักษ์ผลประโยชน์ให้กับบริษัท มากยิ่งขึ้นด้วย
การพัฒนาทักษะความสามารถของพนักงานให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา จากที่องค์กรที่เริ่มก่อตั้งใหม่ๆ พนักงานยังขาดทักษะ ความรู้ ความสามารถ จำเป็นต้องใช้กำลังแรงงานที่มากกว่าองค์กรที่พนักงานอยู่กับองค์กรนานๆ เพราะว่าทักษะความเชี่ยวชาญในงาน จะเพิ่มปีละ 3 % บริษัทและองค์กรต่างๆ จึงควรมุ่งเน้นใส่ใจ การพัฒนา ความรู้ ความสามารถพนักงาน ให้มีทักษะที่เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ ความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะทำให้องค์กรประหยัดค่าใช้จ่าย ด้านอัตรากำลังได้ในระดับหนึ่ง และยิ่งมากกว่านั้น ยังเป็นการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานที่ บริษัทส่งไปฝึกอบรม เกิดความรู้สึกที่ดี และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงานอีกด้วย
การช่วยเหลือสังคมและชุมชนบริเวณรอบบริษัท ให้ชุมชนได้รู้จักองค์กร และสินค้า ก็จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะทำให้ ชุมชนในละแวกบริษัท เกิดความศรัทธาและนับถือ ส่งลูก หลาน เข้ามาทำงานในองค์กร โดยทำให้เกิดความผูกพันระหว่างองค์กรและชุมชน ซึ่งจะทำให้เกิดความแข็งแกร่ง ที่ชุมชนก็จะเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ต่างพึ่งพาอาศัยกัน กระบวนการสรรหาคนก็ไม่ต้องเดินทางไปไกล สามารถใช้แรงงานจากชุมชนที่ใกล้บริเวณบริษัท ส่งผลดีตามมาก็คือ บริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดสถานที่พัก สะดวกในการเดินทางในการมาปฏิบัติงาน ตัวอย่าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) ได้เข้าไปมีส่วนช่วยเหลือชุมชนใกล้เคียงกับโรงงาน โดยการบริจาคปูน ให้กับชุมชน ซึ่งทำให้ชุมชนมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีถนนคอนกรีตเข้าถึงทุกหมู่บ้าน และการชำรุดเสียหายค่อนข้างมีน้อย ทำให้ทุกชุมชนเกิดความศรัทธา และเชื่อมั่นว่าบริษัทได้ช่วยเหลือ เป็นผู้มีบุญคุณกับชุมชน นอกจากนั้นก็ยังให้ความรู้แก่ชุมชนให้มีรายได้เลี้ยงตัวเอง เช่น จัดหาอาจารย์มาสอนชาวบ้าน ให้มีความรู้เกี่ยวกับ การทำสมุนไพรจากพืชผักสวนครัวของชาวบ้าน การทำขนมไทย การปั้นโอ่ง เป็นต้น สิ่งที่บริษัทได้ลงทุนไป ในระยาวสิ่งที่ได้รับตามมาก็คือ ชุมชนได้ส่งลูกหลานเข้ามาทำงานที่บริษัท โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ใน Internet หรือตามหน้าหนังสือพิมพ์
การเสริมสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก ส่วนใหญ่เยาวชนในยุคปัจจุบันอยากทำงานในองค์กรที่เขาใฝ่ฝัน ตั้งแต่เด็ก เพราะว่า ตรายี่ห้อสินค้า ได้ทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่ดี อยากเข้ามาร่วมงาน เช่น KFC แมคโดนัลด์ ทั้งสองแบรนด์ได้สร้างความประทับใจ ด้านรสชาติอาหารและตัวสินค้าตั้งแต่เด็ก จนทำให้เกิดความผูกพันและเกิดความเชื่อมั่นฝังใจ เมื่อเติบโตขึ้นมาเยาวชนทั้งหลายก็จำความรู้สึกเมื่อยังเด็กได้ เลยอยากมีส่วนร่วมกับองค์กรที่มีการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก
การใช้บริษัทเป็นสถานที่ฝึกงานแก่นักศึกษาก่อนจบ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนทำให้นักศึกษาก่อนที่จะก้าวสู่โลกอาชีพได้รู้จักและมีความผูกพันกับองค์กรที่ได้ให้สถานที่ฝึกงานแก่นักศึกษา และโดยส่วนใหญ่สถานที่ฝึกงานได้รับน้องไปฝึกงานแล้ว มักจะเกิดความประทับใจ ความผูกพัน บางแห่งให้สัญญาใจกันไว้ว่า ถ้าน้องจบมาสมัครงานที่บริษัท จะรับเป็นพนักงานประจำก็มี
สร้างองค์กรให้เป็น Flexi-Organization
องค์กรควรพัฒนาระบบการบริหารจัดการให้เป็นองค์กรที่มีความยืดหยุ่นสูง เช่น คนทุกคนพร้อมที่จะทำงานในหน้าที่อื่นได้ หรือพนักงานต้องทำงานได้หลายหน้าที่(flexi-people) เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพสำหรับตัวพนักงานอง และเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้สำหรับองค์กรที่มีความยืดหยุ่นอาจจะมีข้อจำกัด ในบางธุรกิจ เช่น ธุรกิจโรงพยาบาล โดยเฉพาะในส่วนงานที่เป็นทักษะ ความชำนาญเฉพาะด้าน จะไม่สามารถที่จะทำการพัฒนาพนักงานให้มี ทักษะความสามารถ ให้ทำงานแทนกันได้ เพราะต้องใช้เวลา และความสมัครใจในการทำงานในงานนั้นๆด้วย เช่น พยาบาลผู้ป่วยวิกฤติ ขาดแคลน โรงพยาบาลจะพัฒนาทักษะพยาบาลที่อยู่ในหน่วยงานผู้ป่วยนอก ซึ่งไม่เคยผ่านงานที่เกี่ยวกับความเป็นความตายของผู้ป่วยที่อยู่ห้อง ICU มาเลย ก็จะไม่สามารถปฏิบัติงานในหน้าที่นั้นได้ เป็นต้น
เครื่องจักรสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตได้หลายรูปแบบ (flexi-process) การจัดกระบวนทัพของตำแหน่งหน้าที่และหน่วยงานพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ตลอดเวลา (flexi-job/structure) องค์กรพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเวลาทำงาน ให้เหมาะสมกับปริมาณงาน (flexi-working time)
การสร้างองค์กรให้เกิดความแตกต่าง ผู้บริหารระดังสูงหลายองค์กรเริ่มมีความเข้าใจความหลากหลายของพฤติกรรมมนุษย์ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ มีความคิดที่แตกต่างไปจากคนรุ่นเก่า ผู้บริหารก็จะมีการสร้างความแตกต่างขององค์กร เพื่อเป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้สมัครหันมาสนใจบริษัท เช่น
การปรับใช้สวัสดิการแบบยืดหยุ่น โดยการให้พนักงานที่เข้าใหม่ได้มีโอกาสได้เลือกแพ็คเกจ ว่าต้องการแบบเงินเดือนอย่างเดียว หรือเป็นแบบเงินเดือนบวกสวัสดิการ ซึ่งจากผู้เขียนที่มีประสบการณ์ด้านนี้ คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะเลือกแพ็คเกจแบบที่มีเงินเดือนเพียงอย่างเดียว เพราะคนรุ่นใหม่อยากได้เงินเดือนสูงๆ อยากรวยทางลัด และอยากเป็นเจ้าของกิจการ
การให้โบนัสพนักงานทุกระดับโดยการพาไปเที่ยวต่างประเทศ ทุกๆปีพนักงานทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย ก็อยากจะพักผ่อนให้หายเหนื่อย เมื่อบริษัทเปิดทำการจะได้มาทำงานได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่พนักงานระดับล่างเกิดความรู้สึกก็คือ ไปอยู่ที่บริษัทอื่นไม่มีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศอย่างแน่นอน เงินมากน้อยไม่สำคัญแต่การพูดกันในหมู่เพื่อนร่วมงานจากบริษัทอื่น จะเกิดความรู้สึกว่า เขาได้มีมูลค่าหรือได้รับการยอมรับจากบริษัทที่ทำงานอย่างมาก ที่ได้ส่งเสริมให้พนักงานได้มีโอกาสได้เดินทางไปยังต่างประเทศ สิ่งที่องค์กรได้รับคือ ความแตกต่าง ความเลื่องลือ จากในหมู่บริษัทที่ทำงานอยู่ หรือในหมู่ธุรกิจเดียวกันที่ทำการสำรวจข้อมูล ก็ยิ่งทำให้ผู้สมัครที่ได้รับข้อมูล มีความสนใจที่จะเข้ามาร่วมงานในบริษัทมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะไม่ต้องลงทุนด้านการประชาสัมพันธ์ ประกาศรับสมัครพนักงานเลยก็ได้
สรุปการสรรหาแบบเชิงรุก จำเป็นต้องวางแผนระยะยาว และนำเอาเครื่องมือ การบริหารจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์ในเรื่องต่าง ๆ เข้ามาช่วย และต้องสามารถตอบได้ตลอดเวลาว่า ถ้างานที่ทำอยู่เกิดปัญหา การขาดแคลนแรงงาน องค์กรต้องเตรียมความพร้อมที่จะรับมือ ถ้าตอบว่าพร้อมแล้วก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้าตอบว่ายังไม่พร้อมนั่นคือโจทย์ ที่องค์กรต้องนำไปกำหนดแนวทางและจัดทำแผนรองรับต่อไป หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตองค์กรต่าง ๆ คงจะสามารถป้องกันหรือลดการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ เสียเครดิต และเสียต้นทุนที่ไม่ควรเสียเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนแรงงาน